ในอุตสาหกรรมยา (Pharmaceutical Industry) การควบคุมคุณภาพ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด 

ฉะนั้นเครื่องแก้วสำหรับการทดสอบสาร จึงเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับห้องปฏิบัติการทางยา และเป็นเครื่องแก้วที่ถูกออกแบบให้รองรับการวิเคราะห์ที่ละเอียดอ่อน
เช่น การตรวจวัดสารปนเปื้อน (Arsenic หรือ Sulphur Dioxide) การวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมี (Methoxy หรือ Sodium Alginate) เป็นต้น

สำหรับอุตสาหกรรมยาที่มุ่งมั่นในการผลิตสินค้าคุณภาพสูง การใช้เครื่องแก้วที่ได้มาตรฐาน USP ช่วยรับรองว่ากระบวนการวิเคราะห์ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างถูกต้อง และแม่นยำ
ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้อีกด้วย 

วันนี้เอเพกซ์ เคมิเคิล จะยกตัวอย่างเครื่องแก้วคุณภาพสูง ที่อุตสาหกรรมยานิยมใช้ ว่ามีอะไรบ้าง…

• Arsenic determination apparatus (ชุดฟลาสก์สำหรับทดสอบสารหนู)  

ในอุตสาหกรรมยา การตรวจสอบ และควบคุมปริมาณสารปนเปื้อนอย่าง สารหนู (Arsenic) เป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากสารหนูเป็นสารพิษ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ หากมีการปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ยา 

การใช้ Arsenic Determination Apparatus ตามมาตรฐาน USP (United States Pharmacopeia) จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการวิเคราะห์ปริมาณสารหนูในยา เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัย และคุณภาพสูงสุด 

Tip ! : USP <211> Arsenic คือวิธีการวิเคราะห์ปริมาณ Arsenic ที่อาจปนเปื้อนในยา ถูกกำหนดโดย United States Pharmacopeia (USP) เกี่ยวกับการทดสอบปริมาณสารหนู (Arsenic) ในผลิตภัณฑ์ยา อาหาร และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เนื่องจากสารหนูเป็นสารพิษที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

โดยชุดอุปกรณ์ Arsenic determination apparatus จากแบรนด์ Borosil ประกอบไปด้วย :     

• Erlenmeyer flask ขนาด 150 mL พร้อมข้อต่อ (Joint) ขนาด I/C = 24/29 ใช้ในการเก็บสารตัวอย่างที่ใช้ในการทดสอบ และเป็นภาชนะสำหรับใช้ความร้อนเพื่อระเหยสาร 

• Scrubber tube มีหน้าที่ช่วยดักจับ และส่งผ่านไอของสารหนูที่ระเหยไปยังส่วนถัดไป  

• Absorber tube ขนาด O.D. 16 mm. และ I.D. 13.6 mm. มีหน้าที่สำคัญในการควบแน่นไอของสารหนู ให้กลับเป็นของเหลว เพื่อการเก็บตัวอย่างอย่างมีประสิทธิภาพ    

• Clamp สำหรับยึดจับอุปกรณ์

Arsenic determination apparatus มักถูกนำไปใช้ในการทดสอบสารหนูในผลิตภัณฑ์ยา และสารเคมีที่สำคัญหลายชนิด โดยสามารถใช้งานได้กับสารที่ระบุใน Drug Monograph เช่น :
 

• แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate) : ใช้เป็นยากรด หรืออาหารเสริมแคลเซียม ที่จำเป็นต้องทดสอบสารหนู เพื่อให้มั่นใจว่าการปนเปื้อนอยู่ในขีดจำกัดที่ปลอดภัย

• แมกนีเซียมซัลเฟต (Magnesium sulfate) : ใช้เป็นสารประกอบในยาระบาย และสารเสริมอิเล็กโทรไลต์ ที่ต้องทดสอบสารหนูเพื่อควบคุมสิ่งเจือปน

• ทัลค์ (Talc) : เป็นสารเติมแต่งที่พบได้ในยาเม็ด และแป้ง ซึ่งอาจมีสารหนูตามธรรมชาติเจือปนอยู่ จึงจำเป็นต้องทดสอบ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

• สังกะสีออกไซด์ (Zinc oxide) : มักใช้ในครีม หรือขี้ผึ้ง อาจมีการปนเปื้อนของสารหนูจากกระบวนการผลิต จึงจำเป็นต้องการทดสอบเช่นกัน

• Sodium alginate assembly (อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการตรวจสอบความหนืดและคุณภาพของ Sodium Alginate)

การควบคุมคุณภาพของสารปรุงแต่ง (Excipients) เป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ และความคงตัวของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป หนึ่งในสารปรุงแต่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ Sodium Alginate ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความหนืด และสร้างเนื้อเจลในผลิตภัณฑ์ยา

Sodium Alginate Assembly จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยทดสอบ และประเมินคุณภาพของ Sodium Alginate อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ มีมาตรฐาน และปลอดภัย

โดยชุดอุปกรณ์ Sodium Alginate Assembly ถูกนำไปใช้ในการทดสอบในผลิตภัณฑ์ยาหลากหลายผลิตภัณฑ์ เช่น :

• ยาลดกรด : โดยใช้ในการสร้างชั้นป้องกันในกระเพาะอาหาร เพื่อป้องกันการไหลย้อนของกรด

• แผ่นปิดแผลชนิดเจล : ใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการสมานแผล โดยสร้างเจลที่ปกป้องแผลจากการติดเชื้อ

• สารเพิ่มความหนืดในยาน้ำ : Sodium Alginate ถูกใช้เป็นสารเพิ่มความหนืดในยา เพื่อรักษาความสม่ำเสมอ และความคงตัวของผลิตภัณฑ์

ประโยชน์หลักๆของ Sodium Alginate Assembly

• มีความแม่นยำสูง 

การวิเคราะห์ความหนืดและเสถียรภาพของ Sodium Alginate สามารถทำได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

• เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

ลดความเสี่ยงจากปัญหาด้านคุณภาพของสารปรุงแต่ง ทำให้กระบวนการผลิตมีความราบรื่น

• รองรับมาตรฐานอุตสาหกรรม

อุปกรณ์นี้ออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับมาตราฐาน USP <311> Alginates Assay

• Sulphur Dioxide Assembly  (อุปกรณ์สำหรับการวัดปริมาณก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂) ที่ตกค้างในสารปรุงแต่ง (Excipients)

อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่า ในอุตสาหกรรมยาและอาหาร การควบคุมคุณภาพของสารปรุงแต่ง (Excipients) เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂) ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในกระบวนการผลิต เช่น : 

• ใช้เพื่อป้องกันการเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์

• ใช้เพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันในผลิตภัณฑ์ยา 

• ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ยา

แม้ SO₂ จะมีประโยชน์ในกระบวนการผลิต แต่หากมีปริมาณเกินกว่าที่กำหนด อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ ดังนั้นการตรวจวัด และควบคุมปริมาณ SO₂ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย และได้มาตรฐานตามที่กำหนด

Sulphur Dioxide Assembly ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการวัดและควบคุมปริมาณ SO₂ ที่ตกค้างในผลิตภัณฑ์ยา อาหารเสริม หรือแม้กระทั่งเครื่องสำอาง อุปกรณ์นี้ช่วยให้กระบวนการตรวจสอบเป็นไปอย่างละเอียด และแม่นยำ

โดยชุดอุปกรณ์ Sulphur Dioxide Assembly จากแบรนด์ Borosil ประกอบไปด้วย : 

• 3 Neck Round Bottom Flask สำหรับบรรจุสารตัวอย่าง และทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี

• Condenser ใช้ในการควบแน่นไอของ SO₂ ให้กลับเป็นของเหลว

• Scrubber มีหน้าที่กรอง และทำความสะอาดก๊าซ SO₂ ก่อนนำไปวิเคราะห์

• Dropping Funnel ควบคุมการเติมสารเข้าสู่ระบบอย่างแม่นยำ

• Gas Inlet และ Outlet อุปกรณ์ควบคุมการไหลเข้าของก๊าซ และการปล่อยก๊าซออกจากระบบ

ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ชุดอุปกรณ์ Sulphur Dioxide Assembly ในการวัดปริมาณก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่มีการระบุใน Drug Monograph เช่น : 
 

• ยา และการแพทย์ : ใช้ตรวจสอบปริมาณ SO₂ ในกระบวนการผลิตยา เช่น ยาฉีด และยารักษาทางหลอดเลือด โดยมักใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในสารละลาย จึงต้องควบคุมปริมาณ SO₂ อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ????

• อุตสาหกรรมอาหาร : ใช้ในการควบคุมปริมาณ SO₂ ในอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์วิตามิน เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของสารสำคัญ 

• การผลิตเครื่องสำอาง : ในครีมรักษาเชื้อรา มีการใช้ SO₂ ในการควบคุมกระบวนการรักษาผลิตภัณฑ์ และยืดอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์

• Oxygen Combustion Flask หรืออุปกรณ์ตรวจสอบสิ่งเจือปนในยา

โดยอุปกรณ์นี้ ใช้กระบวนการเผาไหม้ (Combustion) เพื่อแยก และตรวจสอบองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ฮาโลเจน หรือซัลเฟอร์ที่อาจพบในตัวยา เช่น Bromine, Chlorine, Iodine, Selenium และ Sulfur เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าสารปนเปื้อน ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายถูกกำจัด หรืออยู่ในระดับที่ปลอดภัย อีกทั้งชุดอุปกรณ์ยังมีมาตรฐานสอดคล้องกับมาตราฐาน USP <471> Oxygen Flask Combustion อีกด้วย

โดยชุดอุปกรณ์ Oxygen Combustion Flask จากแบรนด์ Borosil ประกอบไปด้วย :

• Combustion Flask สำหรับเก็บสารตัวอย่างที่ใช้ในการทดสอบ 

• Specimen Carrier : ใช้สำหรับวางตัวอย่างที่จะทำการเผาไหม้ โดยมีสายแพลทินัมแบบพิเศษรองรับ

• Ignition Point : ใช้สำหรับจุดไฟ เพื่อเผาไหม้สารตัวอย่าง

• Absorption Liquid : ใช้ในการดูดซับสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของตัวอย่าง เพื่อนำไปวิเคราะห์

• Ground Stopper : ใช้ปิด Flask เพื่อควบคุมกระบวนการเผาไหม้ให้อยู่ในระบบปิด

ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้ชุดอุปกรณ์ Oxygen Combustion Flask :

• ยาเม็ดชนิดเคลือบฟิล์ม เพื่อทำให้ยาละลายได้ช้าลง เช่น ยา Ibuprofen หรือ Metformin Extended Release ซึ่งมีโพลีเมอร์หรือสารอื่น ๆ ที่ทนทานต่อการย่อยในกรด

• ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีน้ำมัน (Oil-based supplements) เช่น Softgel Capsules

• ยาสมุนไพรหลายชนิด เช่น Ginkgo Biloba Extract หรือ St. John's Wort ซึ่งประกอบด้วยสารอินทรีย์หลายชนิดที่อาจไม่ละลายในกรดอย่างสมบูรณ์ จึงต้องใช้การเผาในการตรวจหาโลหะหนัก

• Methoxy determination assembly USP  ชุดอุปกรณ์สำหรับการตรวจวัดปริมาณหมู่เมทอกซีในสารประกอบยา

ในกระบวนการผลิตยา การควบคุมคุณภาพของสารประกอบที่มีหมู่ฟังก์ชันเฉพาะ เช่น หมู่เมทอกซี (Methoxy group) มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากหมู่เมทอกซีเป็นส่วนประกอบที่พบในยาหลายชนิด และมีผลต่อคุณสมบัติ และประสิทธิภาพของยาโดยตรง

ซึ่ง Methoxy Determination Assembly นั้นเป็นชุดอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับวิเคราะห์ และตรวจวัดปริมาณหมู่เมทอกซีในสารประกอบยา ซึ่งหมู่เมทอกซีเป็นหมู่ฟังก์ชันที่พบในสารประกอบอินทรีย์หลายชนิด โดยเฉพาะในยาที่มีโครงสร้างซับซ้อน การตรวจวัดปริมาณหมู่เมทอกซี จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าสารประกอบเหล่านั้นมีปริมาณที่ถูกต้อง และปลอดภัยสำหรับการใช้งาน อีกทั้งชุดอุปกรณ์จากแบรนด์ Borisil ได้รับมาตรฐานสอดคล้องกับมาตราฐาน USP <431> Methoxy Determination อีกด้วย

หลักการทำงานของ Methoxy Determination Assembly
การวิเคราะห์ปริมาณหมู่เมทอกซีทำได้โดยใช้กระบวนการดังนี้ :

1. การเตรียมตัวอย่าง:
   ตัวอย่างสารประกอบถูกใส่ลงใน Flask

2. กระบวนการกระตุ้นปฏิกิริยา:
   ใช้แก๊สในการกระตุ้นปฏิกิริยา เพื่อแยกหมู่เมทอกซีออกจากโครงสร้างของสารประกอบ

3. การแยกสาร:
   คอลัมน์ (Column) ทำหน้าที่แยกสารต่าง ๆ ที่เกิดจากปฏิกิริยา

4. การควบแน่น:
   คอนเดนเซอร์ (Condenser) ช่วยควบแน่นไอของสารกลับมาเป็นของเหลว เพื่อให้สามารถวัดปริมาณหมู่เมทอกซีได้อย่างแม่นยำ

ทำไมต้องเลือกเครื่องแก้วจาก Borosil?


 

1. ผลิตจากแก้ว Borosilicate 3.3 คุณภาพสูง

• แก้ว Borosilicate 3.3 มีความทนทานต่ออุณหภูมิสูงและสารเคมี

• รองรับการใช้งานที่ต้องการความแข็งแรงและแม่นยำในกระบวนการทดสอบ

2. ออกแบบให้รองรับมาตรฐาน USP

• ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นออกแบบมาให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ United States Pharmacopeia (USP)

• มั่นใจได้ในความแม่นยำและปลอดภัยในการวิเคราะห์

3. มีอะไหล่สำรองพร้อมใช้งาน

• Borosil มี Spare Parts จำหน่ายแยกเพื่อรองรับการบำรุงรักษา

• ช่วยให้การใช้งานต่อเนื่องเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

เครื่องแก้วจาก Borosil ไม่เพียงตอบโจทย์การวิเคราะห์ที่แม่นยำในอุตสาหกรรมยา แต่ยังมอบความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย ด้วยวัสดุที่ทนทานและการออกแบบที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดับสากล หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่เชื่อถือได้สำหรับการควบคุมคุณภาพ Borosil คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับห้องปฏิบัติการของคุณ
 

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อเราได้ที่
 

☎️ Tel : 02-038-9999

Email : info@apexchemicals.co.th 

Line : @ApexChemicals

เรามีผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้พร้อมให้คำปรึกษาตลอดการสั่งซื้อ

#ApexChemicals #Borosil #LabGlassware #LabEquipment